บทเรียนรักลับ ๆ ที่ทำลายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เพลง "illicit affairs" จากอัลบั้ม folklore เป็นบทเพลงที่เร่าร้อนและเต็มไปด้วยความลับ มันบรรยายถึงความสัมพันธ์ต้องห้าม การหลบ ๆ ซ่อน ๆ และผลลัพธ์อันเจ็บปวดที่ตามมา เทย์เลอร์เล่าเรื่องนี้จากมุมมองของคนที่เข้าไปพัวพันกับ "เรื่องผิดกฎหมาย" โดยแสดงความเห็นอกเห็นใจมากกว่าการตัดสินเหมือนที่เคยทำมา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอแต่งเพลงเกี่ยวกับการนอกใจ อย่างในเพลง "Should’ve Said No" จากอัลบั้มแรกในปี 2006 เราจะเห็นการประณามที่ชัดเจน แต่ในเพลงนี้มุมมองของเทย์เลอร์เปลี่ยนไปมาก เธอเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจว่าการนอกใจก็สามารถนำมาซึ่งความเสียใจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน
เพลงนี้ทำให้เราเห็นมุมมองของคนที่ติดอยู่ในวังวนของความสัมพันธ์ชู้สาว และการโกหกที่ไม่รู้จบ เทย์เลอร์สามารถถ่ายทอดสถานการณ์ที่ขัดแย้งกันของตัวละครได้อย่างสมบูรณ์แบบ
จาก "ห้องประกายระยิบระยับ" สู่ "ลานจอดรถ"
เพลง "illicit affairs บรรยายถึงความสัมพันธ์ลับ ๆ ระหว่างตัวละครผู้บรรยายกับคนรักที่ไม่ได้ระบุชื่อ ตัวละครเอกค่อย ๆ ถูกทำลายด้วยความปรารถนาและความลับที่ต้องเก็บงำ และเริ่มรู้สึกไม่พอใจที่อีกฝ่ายทำให้เธอต้องมาเจอเรื่องราวทรมานใจแบบนี้
"Make sure nobody sees you leave / Hood over your head, keep your eyes down": เพลงเริ่มต้นด้วยการบอกให้อีกฝ่ายระมัดระวังตัวเมื่อจากไป ให้เอาฮู้ดคลุมศีรษะ ก้มหน้าลง เพื่อไม่ให้ใครเห็น หรือสังเกตเห็นถึงแรงจูงใจในการมาพบกัน มันคือการปกปิดตัวเองและสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
"Tell your friends you’re out for a run / You’ll be flushed when you return": เธอบอกให้อีกฝ่ายหาข้ออ้างกับเพื่อน ๆ ว่าออกไปวิ่ง และเมื่อกลับมา ใบหน้าก็จะแดงก่ำ เหงื่อออก ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ดีในการปกปิดสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา
"Take the road less traveled by": การเลือกเส้นทางที่ไม่ค่อยมีคนไป เปรียบเหมือนกับการตัดสินใจเลือกเส้นทางความสัมพันธ์ที่อันตรายและไม่ถูกต้อง มันคือการเดินทางที่อาจไม่มีวันหวนกลับ
"Tell yourself you can always stop": การพยายามบอกตัวเองว่า "เราจะหยุดเมื่อไหร่ก็ได้" คือการหลอกตัวเอง เพราะถ้าหยุดได้จริง คงหยุดไปนานแล้ว มันเหมือนกับอาการเสพติดที่ยากจะถอนตัว
"What started in beautiful rooms / Ends with meetings in parking lots": สิ่งที่เริ่มต้นอย่างสวยงามและน่าตื่นเต้นใน "ห้องสวยงาม" (อาจเป็นโรงแรมหรู) กลับจบลงด้วยการพบกันอย่างสกปรกและลับ ๆ ใน "ลานจอดรถ" มันแสดงให้เห็นถึงการเสื่อมถอยของความสัมพันธ์ จากความตื่นเต้นสู่ความจริงที่ซ่อนเร้นและหดหู่
"การถูกทำลายเล็ก ๆ น้อย ๆ" ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"And that’s the thing about illicit affairs / And clandestine meetings and longing stares": นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ต้องห้าม การพบกันอย่างลับ ๆ และสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาในตอนแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความลับเหล่านี้กลับค่อย ๆ กัดกินหัวใจ
"Born from just one single glance / But it dies and it dies and it dies / A million little times": ความสัมพันธ์นี้เริ่มต้นจาก "แค่เพียงสายตาเดียว" แต่จากนั้นมันก็ "ตายลง ตายลง ตายลง ครั้งแล้วครั้งเล่า นับล้านครั้ง" มันคือความตายทางอารมณ์และจิตใจที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ทุกครั้งที่ความสัมพันธ์ต้องจบลง หรือต้องซ่อนเร้นต่อไป มันคือการตายเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำลายจิตใจไปเรื่อย ๆ
"Leave the perfume on the shelf / That you picked out just for him": เธอต้องทิ้งน้ำหอมที่ตั้งใจจะใช้เพื่อยั่วยวนเขาไว้บนชั้นวาง เพราะการใช้น้ำหอมจะทิ้ง "ร่องรอย" ที่อาจนำไปสู่การเปิดเผยความลับได้ มันคือการที่เธอต้องละทิ้งความเป็นตัวเองเพื่อความลับนี้ และไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่นั่นจริง ๆ หรือไม่
"A dwindling, mercurial high / A drug that only worked the first few hundred times": ความสุขที่ได้จากความสัมพันธ์นี้ค่อย ๆ "ลดน้อยลง และไม่แน่นอน" เหมือนกับฤทธิ์ของยาเสพติดที่เคยออกฤทธิ์ดีในช่วงแรก ๆ แต่เมื่อใช้ไปเรื่อย ๆ มันก็เริ่มจะไม่ได้ผลแล้ว และมันจะทำลายเธอไปเรื่อย ๆ
ความเจ็บปวดที่ "ทำลายตัวเอง" เพื่อความรัก
"And you wanna scream, ‘Don’t call me ‘kid,’ don’t call me ‘baby’": เธออยากจะกรีดร้องออกมาว่า "อย่าเรียกฉันว่า 'เด็ก' อย่าเรียกฉันว่า 'ที่รัก'" เธอไม่ต้องการถูกมองว่าไร้เดียงสา หรือถูกปกป้องอีกต่อไป
"Look at this godforsaken mess that you made me": เธออยากให้เขาเห็นถึง "ความยุ่งเหยิงที่ถูกทอดทิ้งจากพระเจ้าที่คุณสร้างให้ฉัน" ซึ่งอาจหมายถึงการที่เธอรู้สึกไม่มีค่า หรือเป็นคนบาปจากความสัมพันธ์นี้
"You showed me colors you know I can’t see with anyone else / You taught me a secret language I can’t speak with anyone else": เขาทำให้เธอเห็น "สีสัน" ที่เธอไม่เคยเห็นกับใครอื่น และสอน "ภาษาลับ ๆ" ที่เธอไม่สามารถพูดกับใครได้อีก
"For you, I would ruin myself": ท่อนสุดท้ายที่เจ็บปวดที่สุด คือการสารภาพว่า "เพื่อคุณ ฉันจะทำลายตัวเอง" เธอรู้ว่าเขากำลังทำอะไรกับเธอ และเขากำลังใช้ความรักที่เธอมีให้เป็นเครื่องมือ เขาจะกลับมาหาเธอเมื่อไหร่ก็ได้ และเธอจะรับเขากลับมาทุกครั้ง ซึ่งนั่นคือการ "ทำลาย" ตัวเองไปเรื่อย ๆ
บทสรุปจาก "illicit affairs": ความซับซ้อนของใจที่ยอมจมดิ่ง
"illicit affairs" คือบทเพลงที่สะท้อนภาพอันเจ็บปวดของสถานการณ์ที่อันตราย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ไม่มีใครที่จะรอดพ้นไปได้ มันเป็นภาพที่สมจริงมากขึ้นของผลกระทบจากการนอกใจต่อจิตใจของคน ๆ หนึ่ง
เพลงนี้แตกต่างจากเพลงก่อน ๆ ของเทย์เลอร์ที่พูดถึงการนอกใจ (เช่น "Should’ve Said No" หรือ "Better Than Revenge") ตรงที่มุมมองของเพลงนี้มาจากคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการนอกใจ ไม่ใช่คนที่ถูกนอกใจ และในขณะที่เพลงก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์จบลงอย่างชัดเจน แต่ในเพลงนี้มันกลับวนเวียน "ตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า นับล้านครั้ง" มันคือภาพที่เติบโตขึ้นและสมจริงขึ้นของสิ่งที่เป็นอยู่
เพลง "illicit affairs" เปิดตัวที่อันดับ 44 บน Billboard Hot 100 และเป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเทย์เลอร์ในการเล่าเรื่องราวที่ซับซ้อนและเปราะบางของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง