เมื่อเสื้อคาร์ดิแกนตัวเก่าบอกเล่าเรื่องราวความรักแรกที่ไม่มีวันลืมเลือน

เพลง "cardigan" ไม่ได้เป็นแค่ซิงเกิลเปิดตัวอัลบั้ม folklore เท่านั้น แต่มันคือหัวใจสำคัญที่พาเราดำดิ่งสู่โลกนิทานปรัมปราของเทย์เลอร์ และยังเป็นเพลงแรกที่เปิดประตูให้เราได้รู้จักกับ "Teenage Love Triangle" หรือรักสามเส้าแห่งอัลบั้ม folklore

เรื่องราวจากมุมมองของ "เบ็ตตี้": แม้จะอกหัก แต่ฉันก็รู้ว่านายจะกลับมา

"cardigan" เล่าเรื่องราวความรักครั้งแรกที่เจ็บปวดจากมุมมองของ เบ็ตตี้ (Betty) สาวน้อยที่ถูก เจมส์ (James) แฟนหนุ่มคนแรกนอกใจ แม้จะเจ็บปวดและรู้สึกเหมือนถูกทิ้งขว้าง (เหมือนเสื้อคาร์ดิแกนเก่า ๆ ที่ถูกซุกอยู่ใต้เตียง) แต่ลึก ๆ แล้วเบ็ตตี้ก็ยังเชื่อว่าเจมส์จะกลับมาหาเธอเสมอ เพราะเธอรู้จักเขาดีกว่าใคร ๆ และเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในชีวิตของเธอ

เทย์เลอร์เคยอธิบายว่า "เพลงนี้เกี่ยวกับความรักที่หายไป และทำไมความรักของคนหนุ่มสาวถึงยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำของเราเสมอ ทำไมมันถึงทิ้งรอยประทับที่ไม่มีวันลบเลือน" มันคือการย้อนมองอดีตที่ทั้งสวยงามและเจ็บปวดไปพร้อม ๆ กัน

เบื้องหลัง MV ที่น่าสนใจ: สร้างสรรค์ท่ามกลางวิกฤต

รู้ไหมว่ามิวสิกวิดีโอเพลงนี้ เทย์เลอร์เป็นคนเขียนบทและกำกับเองทั้งหมด มันถูกถ่ายทำในช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดหนัก แต่ทีมงานทุกคนก็เคร่งครัดเรื่องมาตรการความปลอดภัยสุด ๆ เทย์เลอร์เล่าว่า "การถ่ายทำทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ทุกคนใส่หน้ากาก รักษาระยะห่าง และฉันเป็นคนแต่งหน้า ทำผม สไตลิสต์เองหมดเลย"

ใน MV เทย์เลอร์จะโผล่ไปในสถานที่ต่าง ๆ ด้วยพลังของเปียโน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการหลีกหนีไปสู่โลกแห่งจินตนาการและอารมณ์ความรู้สึก

"The Teenage Love Triangle": จุดเริ่มต้นตำนานรักสามเส้า

เทย์เลอร์อธิบายในช่องแช็ตตอนเปิดตัว MV ว่า "มีเพลง 3 เพลงที่รวมกันเป็นเรื่องราวรักสามเส้า ที่เล่าจากมุมมองที่ต่างกัน ในช่วงเวลาที่ต่างกันของชีวิต" เพลง "cardigan" เป็นมุมมองของเบ็ตตี้ ตามมาด้วย "august" ที่เป็นมุมมองของ ออกัสติน (Augustine) และปิดท้ายด้วย "betty" ที่เป็นมุมมองของเจมส์

เรื่องราวคร่าว ๆ คือ เบ็ตตี้ กับ เจมส์ เป็นรักแรกพบสมัยมัธยม แต่เจมส์ไปมีความสัมพันธ์กับออกัสติน ทำให้เบ็ตตี้เจ็บปวดอย่างมาก แต่สุดท้ายเธอก็เชื่อว่าเจมส์จะกลับมาหาเธอ ซึ่งเทย์เลอร์เองก็เคยยืนยันใน folklore: the long pond studio sessions ว่า "เธอเชื่อว่าเบ็ตตี้รับเจมส์กลับมา"

เกร็ดน่ารู้ และสัญลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ใน "cardigan":

• เสื้อคาร์ดิแกนแทนความรู้สึก: เทย์เลอร์ใช้ "เสื้อคาร์ดิแกนเก่า ๆ ที่ถูกซุกอยู่ใต้เตียง" เป็นสัญลักษณ์ของความรู้สึกที่ถูกทอดทิ้ง ถูกลืมเลือน และไร้ค่า จนกระทั่งเจมส์เข้ามาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูก "หยิบขึ้นมาสวม" และกลายเป็น "ตัวโปรด" อีกครั้ง แต่คำว่า "put me on" ก็มีความหมายสองนัยได้ว่า "หลอกฉัน" ได้ด้วย

• "Sequin smile, black lipstick": รอยยิ้มอาจเป็นสัญลักษณ์ของความสดใสชวนมองของออกัสติน ที่ดึงดูดความสนใจจากเจมส์ ส่วนลิปสติกสีดำที่ต่างจากลิปสติกสีแดงสดใสที่เทย์เลอร์ชอบใช้ อาจสื่อถึงความโศกเศร้า ความมืดหม่น หรือการไว้ทุกข์

• "Chase two girls, lose the one": ถ้ามัวแต่ตาจีบคนสองคน สุดท้ายก็จะเสียคนสำคัญที่สุดไป

• "Peter losing Wendy": สื่อถึงความสัมพันธ์ที่ฝ่ายหนึ่งไม่ยอมเติบโต ทำให้เสียคนรักไป เหมือน ปีเตอร์แพน ที่ยังคงเป็นเด็กชายใน Neverland และไม่สามารถอยู่กับ เวนดี้ ที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้

• "I knew you’d linger like a tattoo kiss": ความทรงจำของเขาจะยังคงฝังแน่นอยู่ในใจ ไม่มีวันลบเลือน เหมือนรอยจูบที่กลายเป็นรอยสักติดตัวไปตลอด

• "I knew you’d miss me once the thrill expired": เบ็ตตี้เชื่อว่าเมื่อเจมส์เบื่อการไล่ตามสิ่งใหม่ ๆ แล้ว เขาก็จะกลับมาหาเธอที่บ้าน เหมือนยืนอยู่หน้าประตูบ้านที่สว่างไสว รอคอยการกลับมาของเขา

บทเรียนจาก "cardigan": รักครั้งแรกที่เปลี่ยนแปลงเราไปตลอดกาล

"cardigan" คือบทเพลงที่ซับซ้อนและงดงามเกี่ยวกับความทรงจำ วัยเด็กที่เติบโตขึ้น ความรักที่สูญเสียไป และการค้นพบมันอีกครั้ง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เพลงนี้บอกเราว่าความรักสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้มากแค่ไหน และเราไม่สามารถคาดเดาอนาคตหรือย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้เลย

ไม่ว่าเพลงนี้จะถูกเล่าจากมุมมองของเบ็ตตี้หรือเทย์เลอร์เองก็ตาม สิ่งหนึ่งที่แน่ ๆ คือ อารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริง ของเทย์เลอร์นั้นถูกถ่ายทอดออกมาอย่างลึกซึ้งและจริงใจ ทำให้เพลงนี้เข้าไปอยู่ในใจของใครหลาย ๆ คนที่เคยมีประสบการณ์ความรักครั้งแรกที่แสนเจ็บปวดแต่ก็ยังคงสวยงามอยู่ในความทรงจำ

ความสำเร็จบนชาร์ต: "cardigan" สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเปิดตัวที่อันดับ 1 บน Billboard Hot 100 และทำให้เทย์เลอร์เป็นศิลปินคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถเดบิวต์เพลงและอัลบั้มพร้อมกันที่อันดับ 1 ทั้งบน Hot 100 และ Billboard 200 ในสัปดาห์เดียวกัน และยังได้รับรางวัล Platinum จาก RIAA ด้วย