Taylor Swift ให้สัมภาษณ์กับ Billboard ถึงเพลงนี้ว่า :
"มันคือหนึ่งในเพลงที่ฉันภูมิใจมาก โดยใช้กีตาร์ เปียโนและเชลโล เพลงนี้พูดถึงการตกหลุมรักและเทพนิยายที่คุณอยากจะมีกับคนคนนี้ จากนั้นคุณก็ตระหนักได้ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นหรอก"
เพลงนี้ถูกใช้พรีเมียร์ซีรีส์ของช่อง ABC เรื่อง Grey's Anatomy วันที่ 25 กันยายน ปี 2008 โดยเธอเล่ากับ Billboard ว่า :
"คุณน่าจะได้เห็นน้ำตาบนหน้าฉันเมื่อได้รับโทรศัพท์ว่าพวกเขาจะใช้เพลงนี้ ฉันไม่เคยตื่นเต้นเท่านี้มาก่อน นี่คือเป้าหมายชีวิตของฉันเลยนะในการมีเพลงประกอบซีรีส์เรื่องนี้น่ะ ความรักที่ฉันมีให้ซีรีส์เรื่องนี้ไม่มีวันโอนเอน มันคือความสัมพันธ์ที่ยาวนานที่สุดของฉันมาจนถึงทุกวันนี้"
เทย์เลอร์ยังบอกกับ CMT ว่าเพลงนี้คือตัวอย่างของความหลงใหลในเทพนิยายของเธอ :
"ฉันหลงใหลในความแตกต่างและการเปรียบเทียบระหว่างชีวิตจริงกับเทพนิยาย เพราะเราถูกเลี้ยงมาในฐานะเด็กสาวที่เชื่อว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง และเจ้าชายผู้หล่อเหลาจะมานั่งคุกเข่าต่อหน้าเรา และเราทั้งคู่จะขี่ม้าขาวไปยังตะวันลับฟ้าด้วยกัน เราไม่เคยคาดหวังว่าจะถูกเมินเฉย ถูกบอกเลิกหรือนอกใจ ฉันคิดว่ามันน่าสนใจมากที่ในชีวิตจริงเราคิดว่ามันอาจจะไม่เกิดขึ้นกับผู้ชายคนนี้เพราะเขามันห่วยแตก แต่มันก็จะมีบางครั้งที่คิดว่ามันคือเรื่องจริงนะถ้าเราเจอคนที่ใช่ คุณสามารถมีเรื่องรักดี ๆ แบบนั้นได้และไปด้วยกันรอด ดังนั้น มันมีตัวอย่างของเทพนิยายที่แตกต่างกัน บางครั้งฉันก็เชื่อ แต่บางครั้งก็ไม่ ในเพลง White Horse คือเพลงที่เราคิดว่า ว้าว มันไม่ใช่เทพนิยายนี่เนาะ? ดีเลย ฉันเลยตระหนักได้ว่า นี่ไม่ใช่เทพนิยายเลยด้วยซ้ำ มันคือชีวิตจริง"
ความจริงเพลงนี้จะไม่ได้อยู่ในอัลบั้ม Fearless เทย์เลอร์ตั้งใจจะเอาไปใส่ในอัลบั้มที่ 3 คือ Speak Now ถ้าทางทีมงานของซีรีส์ Grey's Anatomy ไม่ตัดสินใจเอาไปเป็นเพลงประกอบ
เพลงนี้เปิดตัวเป็นลำดับที่ 13 ใน Billboard Hot 100 ทำให้เป็นเพลงที่ 6 ของเทย์เลอร์ที่สามารถเดบิวต์ใน Top 20 ได้ในปี 2008 แซงสถิติของวง Jonas Brothers ไปได้ พวกเขาทำได้ 5 เพลง
พระเอก MV เพลงนี้คือ Stephen Colletti นักแสดงจากซีรีส์ One Tree Hill เทย์เลอร์คิดว่าเขาเหมาะกับบทบาทใน MV จึงเลือกเขามา ใน MV จะมีฉากที่ดราม่ามาก เธอต้องร้องไห้ถึง 3 ชั่วโมงในการถ่ายทำ
เพลงนี้ชนะรางวัล Best Country Song และ Best Female Country Vocal Performance ในงาน Grammys ปี 2010 ด้วย
และตอนนี้เธอได้นำเพลงนี้ของเธอ กลับมาบันทึกอีกครั้ง ภายใต้ชื่อ Taylor's Version (เวอร์ชันนี้เป็นของเทย์เลอร์)
