เมื่อการรักตัวเองคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง

ถ้าอัลบั้ม reputation คือค่ำคืนที่มืดมิด เพลง "ME!" ก็คือสายรุ้งแรกที่พาดผ่านท้องฟ้าหลังพายุสงบ นี่คือซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม Lover ที่เทย์เลอร์ สวิฟต์ สลัดภาพลักษณ์ดาร์ก ๆ ทิ้งไปจนหมด แล้วกลับมาพร้อมกับโลกสีรุ้งที่สดใสขั้นสุด เพลงนี้คือการเฉลิมฉลองการรักในตัวเอง การเห็นคุณค่าของความไม่สมบูรณ์แบบ โดยเพลงนี้เธอก็ได้ชวน Brendon Urie นักร้องนำวง Panic! At The Disco มาร่วมสร้างสีสันด้วย

จากงูร้ายสู่ฝูงผีเสื้อ

"ME!" คือการเปลี่ยนผ่านที่ชัดเจนที่สุด เทย์เลอร์ตั้งใจให้เพลงนี้เป็นเหมือน "การล้างกระดาน" (palette cleanser) เพื่อบอกแฟน ๆ ว่าเธอกำลังจะพาไปเจอกับโลกใบใหม่ที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง จากซาวด์ดนตรีที่หนักแน่นในยุคก่อนหน้า มาสู่เพลงพอปที่สดใสและติดหูทันทีที่ได้ฟัง

หัวใจของเพลงนี้ง่ายมาก ๆ เทย์เลอร์อยากให้มีเพลงสักเพลงที่เมื่อมันติดอยู่ในหัวแล้ว จะทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น ในโลกที่เต็มไปด้วยโซเชียลมีเดียที่คอยบอกเราว่าต้องดีกว่านี้ สวยกว่านี้ เพลงนี้คือเสียงตะโกนที่บอกว่า "การเป็นตัวของตัวเองนี่แหละเจ๋งที่สุดแล้ว"


แกะเนื้อเพลง: บทเพลงแห่งการเห็นคุณค่าในตัวเอง (และคนข้าง ๆ)

เพลงนี้คือการยอมรับในข้อเสียของตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ภูมิใจในความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร


MV ที่ทำลายทุกสถิติ

มิวสิกวิดีโอเพลงนี้คือการตอกย้ำการเริ่มต้นใหม่อย่างแท้จริง ฉากเปิดตัวที่เป็นงูเลื้อยแล้วสลายกลายเป็นฝูงผีเสื้อ คือสัญลักษณ์ที่ชัดเจนที่สุดของการอำลายุค reputation และก้าวเข้าสู่ยุค Lover อย่างเต็มตัว

MV เพลงนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการทำลายสถิติมากมาย โดยมียอดวิวใน 24 ชั่วโมงแรกสูงถึง 65.2 ล้านครั้ง บน YouTube ซึ่งสูงที่สุดสำหรับศิลปินเดี่ยวและศิลปินหญิงในขณะนั้น (และเทย์เลอร์ก็ยังไม่วายที่จะทวีตเล่นมุกว่า 6+5+2 = 13 ซึ่งเป็นเลขนำโชคของเธอ)


บทสรุปจาก "ME!": เพลงชาติของคนรักตัวเอง

"ME!" คือเพลงที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับการเปิดประตูเข้าสู่ยุค Lover มันคือเพลงที่เต็มไปด้วยพลังบวก ความสนุกสนาน และข้อความที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ว่าการยอมรับและเฉลิมฉลองในความเป็นตัวของตัวเอง คือจุดเริ่มต้นของความรักทุกรูปแบบ

เพลงนี้เปิดตัวที่อันดับ 100 บนชาร์ต Billboard Hot 100 และในสัปดาห์ต่อมาก็ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการกระโดดขึ้นมาถึง 98 อันดับ มาอยู่ที่อันดับ 2 ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาร์ตเลยทีเดียว