การที่ Taylor Swift รีเรกคอร์ด 6 อัลบั้มแรกของเธอไม่ใช่เพราะต้องการกระแสหรือเล่นกับความคิดถึงของแฟนเพลงเพียงอย่างเดียว แต่มันคือการ reclaim ความเป็นเจ้าของงานศิลปะของตัวเอง หลังจากการสูญเสียสิทธิ์ในมาสเตอร์เพลงที่เธอเป็นคนสร้างขึ้นด้วยหัวใจตั้งแต่วันแรก
ในปี 2019 เทย์เลอร์ประกาศย้ายค่ายไปอยู่กับ Republic Records — ค่ายเพลงใหญ่ที่เต็มไปด้วยศิลปินระดับโลก เธอเขียนโพสต์ในไอจีชัดเจนว่า เธอต้องการอนาคตที่ควบคุมได้ด้วยตัวเอง ทั้งเรื่องดนตรีและสิทธิ์ในผลงานที่เธอสร้าง
ไม่นานหลังจากนั้น โลกดนตรีก็สั่นสะเทือนเมื่อมีข่าวว่า Big Machine Records (ค่ายเก่า) ถูกขายให้กับ Scooter Braun — ผู้จัดการที่มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับ Kanye West และ Justin Bieber
ย้อนกลับไปปี 2009 เทย์เลอร์เพิ่งจะอายุ 20 ปี และคว้ารางวัล Video of the Year จาก VMA ได้สำเร็จ แต่ Kanye West ขึ้นไปแย่งไมค์กลางเวที พร้อมพูดว่า Beyoncé ควรได้รางวัลแทน เหตุการณ์นั้นทำให้ชื่อของ Taylor Swift กลายเป็นจุดสนใจทันที และยังเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งยาวนาน
เรื่องไม่จบแค่นั้น เพราะในปี 2016 Kanye ปล่อยเพลง Famous ที่มีท่อน “I feel like me and Taylor might still have sex / Why? I made that bitch famous.” พร้อม MV ที่มีหุ่นคล้ายเทย์เลอร์นอนแก้ผ้าข้าง Kanye — เทย์เลอร์ออกมาพูดชัดว่าไม่เคยโอเคกับทั้งเพลงและ MV นี้
เมื่อ Kim Kardashian ภรรยาของ Kanye (ตอนนั้นยังไม่หย่า) ปล่อยคลิปเสียงบางส่วนที่ทำให้ Taylor ดูเหมือน “โกหก” โลกโซเชียลก็ถล่มเธอจนติดแท็ก #TaylorSwiftIsOverParty เทย์เลอร์หายจากสื่อไปเกือบปี ก่อนกลับมาพร้อมอัลบั้ม reputationในปี 2017 ที่ดังกระหึ่มโลก
หลังจาก Big Machine ถูกขายให้ Scooter Braun เทย์เลอร์ออกมาโพสต์ว่า เธอไม่มีสิทธิ์ในมาสเตอร์เพลงตัวเองอีกต่อไป เธอไม่สามารถนำเพลงเก่ามาเล่นหรือบันทึกซ้ำได้อย่างอิสระ เทย์พูดในโพสต์อินสตาแกรมว่า "ศิลปินควรมีสิทธิ์ในงานที่ตัวเองสร้าง" — และนี่คือจุดเริ่มต้นของการลุกขึ้นสู้เพื่อ reclaim อำนาจในงานเพลงของตัวเอง
ฝั่ง Scott Borchetta เจ้าของ Big Machine แย้งว่า เทย์เลอร์เคยมีโอกาสเป็นเจ้าของมาสเตอร์ หากเธอต่อสัญญาและออกอัลบั้มใหม่กับค่ายเดิม แต่เธอเลือกจะเดินออกมาเพื่อเส้นทางที่เธอควบคุมได้เอง
แท็ก #IStandWithTaylor และ #WeStandWithTaylor กลายเป็นกระแสใหญ่บนโซเชียล ศิลปินหลายคนออกมาสนับสนุนเธอ เทย์เลอร์ค้นพบว่าตามกฎหมายลิขสิทธิ์ของสหรัฐฯ เพลงที่มีอายุเกิน 5 ปีสามารถบันทึกใหม่ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอเริ่มรีเรกคอร์ด Fearless (Taylor's Version) เป็นอัลบั้มแรกในปี 2021
จนถึงตอนนี้ Taylor ได้รีเรกคอร์ด Fearless, Red, Speak Now, และ 1989 เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยแต่ละอัลบั้มไม่ได้ทำเพราะหวังรางวัล แต่ทำเพื่อความยุติธรรมและสิทธิ์ในงานศิลปะของเธอเอง
โดยการอัปเดตล่าสุด หลังจากที่มีการปล่อย 1989 TV แล้ว เธอก็สามารถซื้ออัลบั้มทั้งหมดเธอเธอกลับคืนมาได้แล้ว โดยเธอบอกทุกคนผ่านจดหมายที่เขียนถึงแฟน ๆ อัลบั้มที่เหลืออย่าง Taylor Swift (Debut) และ reputation เทย์เลอร์ออกก็ออกมาบอกแล้วว่าเธอทำเสร็จแล้ว เว้นแต่อัลบั้ม reputation ที่ยังอัดไปไม่ถึง 1 ใน 4 ของอัลบั้มเลย เธอบอกอีกด้วยว่าเธอคิดว่านี่เป็นอัลบั้มเดียวที่เธอคงจะทำมันดีกว่านี้ไม่ได้จริง ๆ ทั้งหน้าปกอัลบั้ม วิดีโอหรือเพลง เพราะมันเป็นอัลบั้มที่เฉพาะเจาะจงกับช่วงเวลาอันยากลำบากของเธอจริง ๆ เธอเพิ่มเติมว่า เธออาจจะปล่อย Taylor's Version มาอีก แต่ไม่ใช่เพราะต้องการทวงคืนอัลบั้มคืน แต่เป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จที่พวกเราสามารถได้มันกลับคืนมา
การรีเรกคอร์ดครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องธุรกิจ แต่มันคือแถลงการณ์ถึงวงการเพลงว่า ศิลปินไม่ควรถูกพรากสิทธิ์จากงานที่สร้างด้วยหัวใจ Taylor Swift กลายเป็นสัญลักษณ์ของการยืนหยัดเพื่อตัวเอง และบทเรียนนี้ทำให้แฟนเพลงเข้าใจว่าเบื้องหลังเสียงเพลงที่เรารักนั้น เต็มไปด้วยการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม