เปิดโหมดเพชร ส่องประกายให้โลกจำ... ตัวแม่กลับมาทวงบัลลังก์แล้ว
"Bejeweled" คือเพลงลำดับที่ 9 จากอัลบั้ม Midnights ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ บทเพลงพอปที่เปี่ยมไปด้วยพลังนี้ถูกแต่งและร่วมโพรดิวซ์โดยเทย์เลอร์และแจ็ค แอนโทนอฟฟ์ (Jack Antonoff) โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการค้นพบความมั่นใจในตัวเองอีกครั้งหลังจากที่รู้สึกว่าถูกลดทอนคุณค่าลงไป
ชื่อเพลง "Bejeweled" (ประดับด้วยอัญมณี) เป็นสัญลักษณ์แทนความเจิดจรัสและความงดงามที่อยู่ในตัวของทุกคน เทย์เลอร์ใช้คำนี้เพื่อสื่อถึงการตระหนักถึงคุณค่าของตัวเองและไม่ยอมให้ใครมาบั่นทอนความมั่นใจนั้น เธอเปรียบเทียบตัวเองกับอัญมณีที่ยังคงเปล่งประกายได้เสมอ แม้ว่าจะถูกเก็บไว้ในที่มืดมิด
เทย์เลอร์ได้อธิบายถึงแรงบันดาลใจของเพลงนี้ว่า:
"เพลง 'Bejeweled' เป็นเพลงเกี่ยวกับการค้นหาความมั่นใจเมื่อคุณรู้สึกว่ามันถูกพรากไป ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม คุณรู้สึกไม่มั่นคง คุณรู้สึกว่าถูกมองข้าม... หนึ่งในสิ่งที่เราชอบทำในตอนกลางคืน เราชอบออกไปเต้นรำ เราชอบสวมชุดที่ทำให้เรารู้สึกดี และเรารักที่จะรู้สึกว่าเรายังคง 'เจิดจรัสอยู่' ฉันคิดว่ามีช่วงเวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ฉันให้กำลังใจตัวเองเพื่อกลับไปสู่ดนตรีพอป หลังจากใช้เวลาหลายปีที่งดงามในการแต่งเพลงโฟล์ก และอยู่ที่ป่าลึกในจินตนาการที่ฉันสร้างขึ้น ซึ่งฉันรักมันมาก แต่ก็มีการให้กำลังใจตัวเองเล็กน้อยว่า 'คุณทำได้ คุณยังคง Bejeweled!' ฉันยังคง เจิดจรัสอยู่ไหม? เราจะได้เจอกันในเพลงนี้ นั่นคือสิ่งที่เพลงเล่าถึง"
เพลงนี้ยังถูกตีความว่าเป็นการประกาศการกลับมาสู่ดนตรีพอปของเทย์เลอร์ หลังจากที่เธอประสบความสำเร็จอย่างมากกับอัลบั้มโฟล์กอย่าง folklore และ evermore การกลับมาสู่ดนตรีพอปครั้งนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของการยืนยันว่าเธอยังคงเป็น "ราชินี" ผู้เจิดจรัส และสามารถสร้างความประทับใจให้กับทุกคนได้เสมอ
"Bejeweled" ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยขึ้นอันดับ 6 ในชาร์ต Billboard Hot 100 และติดอันดับต้น ๆ ในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นการพิสูจน์ถึงความสามารถในการกลับมาสู่ดนตรีพอปของเทย์เลอร์ได้เป็นอย่างดี
มิวสิกวิดีโอของเพลงนี้ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของซินเดอเรลล่า โดยมีเทย์เลอร์รับบทเป็น "สาวใช้ในบ้าน" (House Wench) และมีนักแสดงชื่อดังอย่าง Laura Dern รับบทเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย, สามสาว Haim รับบทเป็นพี่สาวใจร้าย, Dita Von Teese รับบทเป็นนางฟ้า, Pat McGrath รับบทเป็น "ราชินี Pat" และ Jack Antonoff รับบทเป็นเจ้าชาย
แกะเนื้อเพลง "Bejeweled": การค้นพบประกายในตัว
"Bejeweled" บอกเล่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ตระหนักว่าเธอถูกลดทอนคุณค่าในความสัมพันธ์ และตัดสินใจที่จะก้าวออกมาเพื่อค้นพบความเจิดจรัสของตัวเองอีกครั้ง:
"Baby love, I think I've been a little too kind / Didn't notice you walkin' all over my peace of mind / In the shoes I gave you as a present": เธอเริ่มต้นด้วยการบอกกับคนรักอย่างประชดประชันว่าเธอใจดีเกินไป และเขา "เดินเหยียบย่ำความสงบในใจของฉัน" โดยที่เธอไม่ทันสังเกต ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบว่าเธอให้ "รองเท้า" (ความเอื้ออาทร) แก่เขาเพื่อใช้ในการทำร้ายเธอ
"Puttin' someone first only works when you're in their top five / And by the way, I'm goin' out tonight": เธอตระหนักว่า การให้ความสำคัญกับใครสักคนจะได้ผลก็ต่อเมื่อเธออยู่ใน "ห้าอันดับแรก" ของเขา และตัดสินใจที่จะ "ออกไปข้างนอกคืนนี้" ซึ่งเป็นการประกาศว่าเธอจะไม่ยอมถูกมองข้ามอีกต่อไป
"Best believe I'm still bejeweled / When I walk in the room / I can still make the whole place shimmer / And when I meet the band / They ask, 'Do you have a man?' / I could still say, 'I don't remember' / Familiarity breeds contempt / Don't put me in the basement / When I want the penthouse of your heart / Diamonds in my eyes / I polish up real, I polish up real nice": ท่อนคอรัสคือการประกาศความมั่นใจ เธอ "ยังคง Bejeweled" และสามารถทำให้ทั้งห้องส่องประกายได้เมื่อเธอเดินเข้าไป เธอไม่ต้องการ "ห้องใต้ดิน" แต่ต้องการ "ห้องเพนต์เฮาส์แห่งหัวใจ" จากเขา เธอมี "ประกายเพชรอยู่ในดวงตา" และจะ "ขัดให้เงางาม" อีกครั้ง
"Baby boy, I think I've been too good of a girl / Did all the extra credit, then got graded on a curve / I think it's time to teach some lessons / I made you my world / Have you heard? / I can reclaim the land / And I miss you, but I miss sparklin'": เธอประชดประชันคนรักว่าเป็น "เด็กน้อย" และบอกว่าเธอเป็น "เด็กดี" มากเกินไป เธอทำทุกอย่าง แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ เธอตัดสินใจที่จะ "สอนบทเรียน" และ "ทวงคืนดินแดน" ของเธอ (ชีวิตและอาชีพ) เธอ "คิดถึงเขา" แต่ "คิดถึงการเปล่งประกาย" มากกว่า
"Sapphire tears on my face / Sadness became my whole sky / But some guy said my aura's moonstone / Just 'cause he was high / And we're dancin' all night / And you can try to change my mind / But you might have to wait in line / What's a girl gonna do? / A diamond's gotta shine": เธอระบายถึงความเศร้าที่เคยครอบงำเธอ แต่ตอนนี้เธอเลือกที่จะ "เต้นรำตลอดทั้งคืน" และจะไม่ยอมให้ใครมาเปลี่ยนใจเธอ "เพชรต้องส่องประกาย" และเธอก็เช่นกัน
"I polish up nice / I can still make the whole place shimmer": สุดท้ายแล้ว เธอก็ย้ำถึงความมั่นใจที่กลับคืนมา เธอ "จะขัดให้เงางามระยิบระยับ" และยังคงสามารถทำให้ทุกที่ส่องประกายได้
บทสรุปจาก "Bejeweled": จงเป็นตัวของตัวเองอย่างเจิดจรัส
"Bejeweled" คือบทเพลงที่ส่งเสริมให้ทุกคนค้นพบและยอมรับความพิเศษของตัวเอง อย่าลดทอนคุณค่าของตัวเองเพื่อใคร อย่าซ่อนความเจิดจรัสของตัวเองเอาไว้ จงเป็นเหมือนอัญมณีที่ส่องประกายเจิดจ้า ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม เทย์เลอร์ สวิฟต์ได้ใช้เพลงนี้เพื่อประกาศอิสรภาพจากความสัมพันธ์ที่เคยทำให้เธอรู้สึกด้อยค่า และกลับมาเปล่งประกายในฐานะศิลปินพอปที่ทรงพลัง และมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง
เพลงนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าเราทุกคนมี "ประกายเพชร" อยู่ในตัว จงค้นหามัน ขัดมันให้เงางาม และอย่ากลัวที่จะส่องประกายให้โลกได้เห็น